ชาวไอนุเป็นกลุ่มชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ตั้งแต่หมู่เกาะริวกิวถึงเกาะฮอกไกโดทางตอนเหนือของญี่ปุ่น รวมไปถึงเกาะคูริลและเกาะซาฮาลินซึ่งตั้งอยู่ระหว่างพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่นและรัสเซีย ตามตำนานพวกเขาคือผู้ครอบครองดินแดนญี่ปุ่นมาช้านาน ว่ากันว่า “ชาวไอนุอยู่ที่นี่หลายแสนปีก่อนที่จะถูกรัฐบาลเอะโดะเนรเทศ" ในอดีต ชาวญี่ปุ่นมักเน้นย้ำเสมอว่าประเทศของตนเป็น "กลุ่มชาติพันธุ์โมโน" และชาวไอนุถือเป็น "คนป่าเถื่อน" ซึ่งถูกเลือกปฏิบัติและกดขี่โดยกลุ่มชาติพันธุ์หลักของญี่ปุ่น พวกเขาต้องเผชิญกับนโยบายที่ถูกบังคับให้หลอมรวมและเสี่ยงต่อการถูกลบเลือนวัฒนธรรมมาตั้งแต่ช่วงยุคสมัยเมจิ (มี 2411-2455)ชาวไอนุเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีฐานะยากจนมาก มีช่องว่างด้านรายได้กับการศึกษาระหว่างชาวไอนุกับประชากรอื่นๆ ของญี่ปุ่น และปัจจุบันทางการญี่ปุ่นได้ออกกฎหมายยอมรับว่าชาวไอนุเป็น "ชนพื้นเมือง" เป็นครั้งแรก รวมถึงระบุในกฎหมายเปิดโอกาสให้มีการสนับสนุนชาวไอนุในหลายๆ ด้าน
ชาวไอนุเป็นชนเผ่าที่มีความใกล้ชิดกับธรรมชาติ พวกเขาเชื่อว่าพระเจ้านั้นแปลงกายมาเป็นพืช สัตว์ และสิ่งอื่นๆ ในธรรมชาติเพื่อปกปักรักษาและให้ชีวิตแก่มนุษย์ ชาวไอนุจะแต่งกายเลียนแบบนกอินทรีย์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้ถูกล่าเพื่อความกลมกลืน พิธีกรรมที่สำคัญที่สุดของพวกเขาที่เกี่ยวข้องกับหมีซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้ล่าคือ “iyomante” เป็นการส่งวิญญาณของสัตว์กลับคืนสู่สวรรค์ จัดขึ้นเป็นประจำในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ชาวไอนุจะทำพิธีบูชายัญหมี (หรือบางครั้งก็เป็นนกฮูก) โดยการจับลูกหมีมาเลี้ยงดูอย่างดีจนมีอายุได้ 2 ปี จากนั้นจึงทำพิธีส่งพวกมันกลับคืนสู่สวรรค์เพื่อเป็นการส่งข้อความถึง “บิดาแห่งหมีผู้ยิ่งใหญ่บนท้องฟ้า” เนื้อและหนังของหมีจะถูกนำมาใช้เป็นอาหารและเครื่องนุ่งห่ม ส่วนกะโหลกศีรษะจะถูกนำไปเป็นเครื่องสักการะบูชาเพื่อระลึกถึงพระเจ้า
การแต่งงานและรอยสัก
หญิงชาวไอนุจะเริ่มทำการ “สัก” ตั้งแต่อายุ 12 ปี โดยสร้างสัญลักษณ์รอบริมฝีปาก มือ และแขน เมื่อสักจนครบถ้วนภายในเวลา 3 ปี หญิงชาวไอนุวัย 15 หรือ 16 ปี ก็พร้อมที่จะออกเรือน รอยสักของหญิงชาวไอนุจะต้องทำการสักโดยผู้หญิงด้วยกันเท่านั้น ในยุคเอะโดะรัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกกฎหมายห้ามสักและถือว่ารอยสักเป็นเครื่องหมายของความรุนแรง เพราะมีการใช้เป็นสัญลักษณ์ในการเคลื่อนไหวของกลุ่มอาชญากรรม
การแต่งงานของหญิงชาวไอนุบางครั้งก็ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ แต่ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับความพอใจของหนุ่มสาว เมื่อชายหนุ่มชาวไอนุต้องการจะสู่ขอหญิงสาวที่หมายปองเขาจะเดินทางไปเยือนบ้านของฝ่ายหญิง ผู้หญิงจะเสิร์ฟข้าวมาในถ้วย ฝ่ายชายจะทานข้าวครึ่งถ้วยและส่งกลับคืนให้หญิงสาว ถ้าเธอทานต่อจนหมดหมายความว่าเธอยอมรับ แต่ถ้าคว่ำข้าวที่เหลือลงหมายความถึงการปฏิเสธ นอกจากนี้ในพิธีแต่งงานก็จะมีการทานข้าวคนละครึ่งถ้วยเพื่อเป็นสัญญารักเช่นกัน
ชุดพื้นเมือง
ชุดพื้นเมืองของชาวไอนุทำมาจากหนังและขนของนก รวมไปถึงหนังของหมี กวาง จิ้งจอก แมวน้ำ สุนัข และสัตว์อื่นๆ หรือแม้กระทั่งหนังของปลาอย่างแซลมอนและปลาเทราต์ นอกจากนี้ยังมีชุดสีขาวที่ทำจากพืชอย่างต้นข้าวไรย์หรือต้นเอล์ม เครื่องแต่งกายของชาวไอนุจะใช้วิธีการปะติดและเย็บปักถักร้อย เมื่อผ้าฝ้ายได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้นในญี่ปุ่นก็มีการเย็บปักอย่างละเอียดและซับซ้อนมากขึ้นตามไปด้วย
หญิงชาวไอนุจะสวมผ้าโพกศีรษะ ต่างหู และสร้อยคอที่ทำจากลูกแก้ว
ชาวชาวไอนุนิยมไว้หนวดเคราและพกดาบสั้นติดตัวเสมอ
อาหาร
ในฤดูร้อนชาวไอนุจะใช้เรือแคนูไม้ออกล่าปลาแซลมอนและสัตว์อื่นๆ ในแม่น้ำ หรือออกไปล่าปลากระโทงดาบ ปลาทูน่า ปลาแสงอาทิตย์ แมวน้ำ ปลาโลมา หรือกระทั่งวาฬในมหาสมุทร
ในฤดูหนาวชาวไอนุจะหันมาล่าหมี กวาง และสัตว์ป่าอื่นๆ เพื่อนำเนื้อมาต้ม ตากแห้ง และรมควัน
ภาษา
ชาวไอนุมีภาษาพูดเป็นของตัวเองแต่ไม่มีภาษาเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร พวกเขาถ่ายทอดวัฒนธรรมการพูดด้วยการเล่าเรื่องราวผ่านรุ่นสู่รุ่น สถานที่หลายแห่งในฮอกไกโดมาจากภาษาของชาวไอนุเช่น ซัปโปะโระ (แม่น้ำที่แห้งและใหญ่) มุโระรัง (พื้นที่ลาดเอียงขนาดเล็ก) ทะเลสาบโทยะ (ชายฝั่งของสระน้ำ)