เกลือสินเธาว์
640310034 จันทราทิพย์ พรหมมาศ
640310037 ชลธิชา แดงดี
การผลิตเกลือสินเธาว์มีมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์และเกลือสินเธาว์มักถูกเปรียบเปรยว่าเป็นทองคำขาวแห่งอีสานเนื่องจากเกลือเป็นทรัพยากรสำคัญในการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างชุมชน โดยเฉพาะพื้นที่แอ่งสกลนครและแอ่งโคราชในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย หลักฐานทางโบราณคดีจากการศึกษาแหล่งผลิตเกลือโบราณโดยอิจิ นิตตะ นักโบราณคดีชาวญี่ปุ่น บนเนินดินโนนทุ่งผีโพน บ้านงิ้วใหม่ ตำบลบ้านงิ้วเก่า อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พบหลักฐานเกี่ยวกับการทำเกลือ ได้แก่ บ่อเก็บน้ำ แอ่งกรองน้ำ เตาดิน เศษภาชนะดินเผาในการต้มเกลือทรงชามครึ่งวงกลม หม้อทรงกลม และหลุมเสาที่สันนิษฐานว่าเคยเป็นเพิงพักอาศัย กำหนดอายุได้ราว 1,900 ปีมาแล้ว
จากการศึกษาการผลิตเกลือสินเธาว์โดยชาวบ้านในภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบว่าดินที่ใช้ในการผลิตเกลือสินเธาว์เรียกว่า ขี้ทา มี 2 ประเภท คือ ขี้ทาเดิ่น และขี้ทาฝุ่น นอกจากนี้ต้องผสม แข่วปลาค้าว ซึ่งหัวเชื้อในการต้มเกลือลงไปด้วย หากผสมขี้ทาทั้งสองประเภทในสัดส่วนที่เหมาะสมจะได้เกลือในปริมาณมากและมีรสชาติดีไม่เค็มจนเกินไป ในขั้นตอนการผลิตหลังเลือกดินที่ต้องการแล้วต้องนำดินผสมแกลบข้าวหรือฟางและเทน้ำหมักทิ้งไว้ในรางเกรอะน้ำเกลือลักษณะคล้ายเรือเป็นเวลาหนึ่งคืน จากนั้นกรองน้ำเกลือในรางไปต้ม แต่ก่อนนำไปต้มต้องวัดความเค็มของน้ำว่าเค็มพอที่จะต้มได้หรือไม่โดยใช้ไข่เป็ดหรือครั่งหย่อนลงไป ถ้าไข่เป็ดหรือครั่งลอยน้ำแสดงว่าน้ำเกลือมีความเค็มมากสามารถนำไปต้มได้ ใช้ไฟอ่อนในการต้มเกลือประมาณ 2 ชั่วโมงจนน้ำระเหยออกกลายเป็นผลึกเกลือแล้วตักเกลือขึ้นมาใส่กะทอผึ่งลมให้แห้งก่อนนำไปปรุงอาหารหรือส่งขายต่อไป สำหรับรางเกรอะน้ำเกลือมักทำมาจากต้นสะแบง (ต้นยาง) ถากเนื้อด้านในออกเพื่อนำมาทำเป็นรางใส่ขี้ทา เกลือสินเธาว์ที่ได้มีสีขาวขุ่นเมื่อเก็บรักษาไว้เป็นเวลานานสีเกลือจะค่อนไปทางเหลืองเล็กน้อย นอกจากนี้ชาวบ้านนิยมนำเกลือสินเธาว์ไปใช้ในการหมักปลาร้าแทนเกลือบริโภคเสริมไอโอดีนจากท้องตลาดเพราะปลาร้าที่หมักด้วยเกลือต้มมีเนื้อสีแดง รสชาติเค็มกลมกล่อม แต่เนื้อปลาที่ได้จากเกลือเสริมไอโอดีนมักมีสีดำ รสชาติเค็มสากลิ้น
การผลิตเกลือสินเธาว์ไม่ใช่เพียงอุตสาหกรรมระดับครัวเรือนเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจเท่านั้น เนื่องด้วยผู้คนจากหลากหลายสังคมรวมตัวทำกิจกรรมในพื้นที่เดียวกันจึงเกิดศูนย์กลางการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลและชุมชน ทำให้เกลือสินเธาว์กลายเป็นวัตถุทางวัฒนธรรมเชื่อมโยงวิถีชีวิตที่หลากหลายเข้าด้วยกันเกิดเป็นมรดกภูมิปัญญาของชาวบ้านในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ยังหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน
อ้างอิง
จักรมนตรี ชนะพันธ์. (2562). เกลือสินเธาว์อีสาน : ลมหายใจของอุตสาหกรรมครัวเรือน. สืบค้นเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2567. สืบค้นจาก https://www.silpa-mag.com/culture/article_6496
ไทยพีบีเอส. (2563). เกลือสินเธาว์ มรดกจากผืนดิน บ้านหนองเทา ต.นาแก อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร. สืบค้นเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2567. สืบค้นจาก https://www.thaipbs.or.th/program/TheConnect/episodes/71512
Nitta,Eiji. (1994). “Iron-smelting and Salt-making Industries in Northeast Thailand.” The 15th IPPA Congress, Chiangmai, Thailand, Jan 1. โดย นางสาวศุภภัสสร หิรัญเตียรณกุล นักโบราณคดีชำนาญการ