ฉะเชิงเทรา หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า แปดริ้ว เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน โดยมีที่มาของชื่อที่น่าสนใจและมีความเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น
เรื่องราวของฉะเชิงเทราเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ โดยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์บ่งชี้ว่าเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรขอมมาก่อน ชื่อ "ฉะเชิงเทรา" สันนิษฐานว่ามาจากภาษาเขมร หมายถึง "คลองลึก" ซึ่งอาจจะหมายถึงแม่น้ำบางปะกงที่ไหลผ่านจังหวัด ส่วนชื่อ "แปดริ้ว" นั้นมีตำนานเล่าขานกันหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือเรื่องราวของปลาช่อนขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำบางปะกง เมื่อนำมาทำปลาแห้งจะต้องแล่เนื้อถึง 8 ริ้ว จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกนี้
โดยพื้นที่ลุ่มน้ำบางปะกงเป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การตั้งถิ่นฐาน ผู้คนจึงเข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีการทำการเกษตรและประมุกเป็นอาชีพหลัก นอกจากนี้ ฉะเชิงเทรายังมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์เนื่องจากเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญเชื่อมโยงระหว่างภาคกลางและภาคตะวันออก ทำให้มีการสร้างป้อมปราการ ในรัชสมัยรัชกาลที่ 3 บริเวณริมแม่น้ำบางประกงเพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรู ปัจจุบันยังคงหลงเหลือแนวกำแพงป้อมปราการหลงเหลืออยู่และได้มีการบูรณะใหม่
ในด้านการเมืองการปกครอง สมัยกรุงศรีอยุธยา ฉะเชิงเทราเป็นเมืองจัตวา อยู่ในความดูแลของกระทรวงกลาโหม ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองหลายครั้ง จนกระทั่งในรัชกาลที่ 5 ฉะเชิงเทราได้กลายเป็นจังหวัดหนึ่งในมณฑลปราจีนบุรี และในที่สุดก็ได้แยกออกมาเป็นจังหวัดฉะเชิงเทราอย่างในปัจจุบัน
ฉะเชิงเทราเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเมืองที่มีวัดวาอารามสวยงาม โดยเฉพาะวัดหลวงพ่อโสธร ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก นอกจากนี้ ฉะเชิงเทรายังมีวัฒนธรรมที่หลากหลายผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมมอญและวัฒนธรรมจีน ในฉะเชิงเทราซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเมืองพหุวัฒนธรรม
ปัจจุบัน ฉะเชิงเทราเป็นจังหวัดที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยว มีการลงทุนในโรงงานอุตสาหกรรม และมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น วัดหลวงพ่อโสธร วัดสมานรัตนาราม ตลาดน้ำบ้านใหม่และอุทยานแห่งชาติเขาหินซ้อน