พวกเขาคือ “ดาราอ้าง” หรือที่รู้จักในบางชื่อว่า “ปะหล่อง” กลุ่มชาติพันธุ์ที่สืบเชื้อสายมาจากแคว้นเชียงรุ่งในสิบสองปันนา ก่อนจะถูกกระแสแห่งกาลเวลาและการเมือง ผลักให้ล่องลอยลงสู่พื้นที่ห่างไกลของรัฐฉานและรัฐกะฉิ่น ชีวิตของพวกเขาเคยสงบเรียบง่ายอยู่บนที่สูง สืบทอดศาสนา ศิลป์ และภาษาในดินแดนที่แม้ไม่อุดมสมบูรณ์ แต่ก็คงความเป็นป่าเขาที่เอื้อให้วัฒนธรรมดำรงอยู่
แต่โลกนี้ไม่เคยปล่อยให้ความสงบอยู่ได้นานนัก ในห้วงเวลาหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ท้องฟ้าแห่งรัฐฉานถูกขีดรอยด้วยเสียงปืนและควันไฟ การปะทะระหว่างกองทัพรัฐบาลพม่ากับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ทำให้ดาราอ้างจำนวนมากกลายเป็นผู้ลี้ภัย พวกเขาเดินเท้าข้ามแม่น้ำสาละวิน บ้างล้มตาย บ้างหายสาบสูญ บ้างเดินมาจนถึงฝั่งไทย และหยุดลง ณ เชิงดอยอินทนนท์ อันเป็นดินแดนในโครงการหลวงที่เปิดประตูเชื้อเชิญให้พวกเขาได้มีที่พักพิง
รายงานฉบับนี้ได้ใช้เครื่องมือ “7 ชิ้นอ่านชุมชน” จากศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร โดยเลือกใช้ “แผนที่เดินดิน” เป็นเครื่องมือหลัก เพื่อสำรวจพื้นที่จริง ร่วมเดิน ร่วมฟัง และร่วมเรียนรู้จากผู้คนในหมู่บ้าน ผ่านการเดินทางกับพ่อหลวงหรือน้าเงิน ลุงปั๋น พี่น้ำหวาน และชาวบ้านคนอื่นๆ รายงานฉบับนี้ยังมุ่งสำรวจที่มาแห่งการอพยพของชนเผ่าดาราอ้าง สู่การตั้งรกรากในประเทศไทย พร้อมทั้งวิเคราะห์ความท้าทายของการเป็นชายขอบ รวมไปถึงสายสัมพันธ์แห่งศรัทธาในพระพุทธศาสนา “จากสิบสองปันนาสู่พื้นที่แห่งความหมาย” ผ่านมุมมองของชนชาติพันธุ์ดาราอ้างในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย