Lucy Norris (2012) ศึกษาประวัติศาสตร์ของธุรกิจเสื้อผ้ามือสองระดับโลก พบว่า การเกิดขึ้นของตลาดเสื้อผ้ามือสองสัมพันธ์กับตลาด (Market) วัตถุภาวะ (Materiality) และศีลธรรม (Moral) กล่าวคือ เสื้อผ้ามีสองได้รับบริจาคหรือการกุศลจากหน่วยทางสังคมในประเทศโลกเหนือ และถูกจำหน่ายและกลายเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในประเทศโลกใต้ เสื้อผ้ามือสองที่มีจำหน่ายโดยทั่วไปจึงมีรูปแบบและคุณภาพที่หลากหลาย เสื้อผ้าทั้งหมดจะผ่านถูกให้ความหมายว่าเป็น “เสื้อผ้ามือสอง” (Secondhand Clothing) ซึ่งหมายถึงเสื้อผ้าที่ผ่านการใช้งานจากบุคคลอื่นแล้วทำการแลกเปลี่ยนหรือซื้อขายต่อ
ข้อเสนอข้างต้นไม่ได้ศึกษาครอบคลุมถึงเสื้อผ้ามือสองที่เป็นของสะสมซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากการกลายเป็นสิ่งหายาก หรือเสื้อผ้าที่ปัจเจกไม่ได้ใช้งานและนำมาจำหน่ายต่อ โดยที่ปัจเจกเป็นผู้จำหน่ายผ่านช่องทางต่าง ๆ ด้วยตนเอง นอกจากนี้ หากพิจารณามิติทางสังคมวัฒนธรรมพบว่า อุตสาหกรรมเสื้อผ้ามือสองยังสัมพันธ์กับวัฒนธรรมการบริโภคที่ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมแฟชั่น ความเติบโตของวัฒนธรรมการบริโภคแบบโหยหาอดีตหรือย้อนยุค (Nostalgic & Vintage Fashion) และระบบจัดการขยะเสื้อผ้า (e.g. Bhardwaj & Fairhurst, 2010; Botticello, 2012; Marzella, 2015; Hansen & Zotte, 2019) ความเปลี่ยนแปลงของแฟชั่นที่รวดเร็วทำให้รสนิยมในการบริโภคและสวมใส่เสื้อผ้าก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน เสื้อผ้ามือสองจึงเป็นพื้นที่สำหรับการกระจายเสื้อผ้าใช้แล้วที่นำมาปรับปรุงใหม่ (Recycle) หรือนำมาใช้ซ้ำ (Reuse) โดยส่งต่อไปยังบุคคลที่สามต่อไป
การทำให้เสื้อผ้าใช้แล้วกลายเป็นสินค้าได้มีการกำหนดเกณฑ์ในการจัดระดับคุณภาพสินค้า หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “สภาพ” โดยอาจพิจารณาจากสภาพเสื้อผ้าในปัจจุบัน ตราสินค้าหรือแบรนด์ ลวดลายที่ปักบนเสื้อผ้า แฟชั่น เป็นต้น กล่าวคือ เสื้อผ้าทั้งหมดเป็นสินค้า “มือสอง” เหมือนกันแต่มีสภาพที่แตกต่างกัน จากการสำรวจของผู้เขียนพบว่า การกำหนดระดับของเสื้อผ้ามือสองแบ่งง่าย ๆ เป็น 2 ระดับ คือ สภาพดี โดยอาจมีการใช้คำเชิงอุปมา เช่น สภาพนางฟ้า/เทวดา แบรนด์เนม เป็นต้น และ สภาพมีตำหนิ เช่น เสื้อผ้าชำรุด มีรอยเปื้อน เป็นต้น สินค้าชิ้นนั้นอาจมีคุณค่าอื่น ๆ ที่สามารถโน้มน้าวให้ผู้ซื้อสนใจ เช่น ตราสินค้า ลวดลาย เป็นต้น จะเห็นว่าตลาดเสื้อผ้ามือสองเปิดพื้นที่ให้สามารถซื้อขายสินค้ามีตำหนิได้ สินค้ามีตำหนิจึงเป็นปฏิบัติการร่วมกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยผู้ขายจะคัดเลือกสินค้า(มีตำหนิ)ที่ตนประเมินว่าอาจจะขายได้ ขณะเดียวกันผู้ซื้อก็ต้องชั่งใจว่าคุณลักษณะอื่น ๆ สามารถทดแทนตำหนิเหล่านั้นได้หรือไม่
ในปัจจุบันรูปแบบการซื้อขายเสื้อผ้ามือสองมีหลากหลาย ได้แก่ ร้านค้ามือสองหรือ Thrift Shop โกดังขายสินค้า แผงขายสินค้าบนทางเท้าหรือแบกะดิน ตลาดเปิดท้ายขายของหรือที่เรียกกันติดปากว่า “ตลาดนัด” ตลอดจนการซื้อขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งนี้ผู้เขียนสนใจตลาดนัดอันเป็นพื้นที่ทางกายภาพที่มีการซื้อขายสินค้ามือสองซึ่งได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง ในตลาดนัดเสื้อผ้ามือสองจะประกอบด้วยร้านค้าหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าที่ขายสินค้าเฉพาะอย่าง หมายถึง ร้านที่ขายเสื้อผ้ามือสองเฉพาะอย่าง เช่น ขายเฉพาะเสื้อ เฉพาะกางเกงยีนส์ เฉพาะรองเท้า เป็นต้น และร้านค้าที่ขายสินค้าแบบรวม หมายถึง ร้านที่ขายเสื้อผ้ามือสองหลายอย่างรวมกัน โดยร้านค้าประเภทนี้จะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากกว่าเนื่องจากมีตัวเลือกในการซื้อมากกว่าร้านเฉพาะ นอกจากนี้ในตลาดมือสองจะมีการแยกร้านค้าตามเพศของผู้สวมใส่ แต่ก็ไม่ได้มีข้อจำกัดว่าผู้ซื้อจะต้องซื้อเสื้อผ้าตามเพศวิถีของตนเท่านั้น
หากพิจารณาไปในแต่ละร้าน สิ่งที่น่าสนใจคือรูปแบบการจัดวางสินค้าที่แตกต่างกัน จากประสบการณ์ของผู้เขียนที่เคยไปซื้อเสื้อผ้ามือสองทั้งในหลากพื้นที่พบว่า การจัดวางมีรูปแบบที่ใกล้เคียงกัน 3 รูปแบบ ได้แก่ การจัดราว นิยมใช้กับเสื้อ กางเกง กระโปรง ชุดกระโปรง ผ้าพันคอ, การวางเรียง นิยมใช้กับรองเท้า กระเป๋า เข็มขัด ทั้งสองรูปแบบนี้ผู้ขายอาจมีการเลือกชิ้นที่(ผู้ขาย)คิดว่าดีหรือน่าสนใจแขวนหรือวางไว้ในจุดที่เด่นที่สุดของร้านเพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้า และสุดท้ายคือ การวางเป็นกองตามประเภท เป็นการจัดวางสินค้าเหล่านั้นเป็นกองปะปนกัน ทั้งนี้การจัดวางสินค้าที่แตกต่างกันทำให้รูปแบบการเดินชมและเลือกสินค้าของผู้ซื้อแตกต่างกันด้วย
รายการอ้างอิง
Bhardwaj, V. & Fairhurst, A. 2010. Fast Fashion: Response to Changes in the Fashion Industry. The International Review of Retail, Distribution and Consumer Research, 20(1), 165-173.
Botticello, J. 2012. Between Classification, Objectification, and Perception: Processing Secondhand Clothing for Recycling and Reuse. TEXTILE: Cloth and Culture, 10(2), 164-183.
Hansen, K. T. & Zotte, J. L. 2019. Changing Secondhand Economies. Business History, 69(1), 1-16.
Marzella, F. 2015. The Second-Hand Market: The Practice of Reusing Goods in Cultures Dominated by the New. Italian Sociological Review, 5(1), 105-122.
Norris, L. 2012. Trade and Transformations of Secondhand Clothing: Introduction. TEXTILE: Cloth and Culture, 10(2), 128-143.